“ขอพร เราคือ Thymus เราคือคณะอาจารย์ผู้ขึ้นสู่สวรรค์
เรามาที่นี่เพื่อมอบสิ่งที่คุณรู้อยู่แล้ว แต่เป็นสิ่งที่ถูกฝังลึกอยู่ภายในตัวคุณ เราต้องการให้คุณรู้ว่าทุกสิ่งมีอยู่ภายในตัวคุณ และคุณยังได้รับประสบการณ์ที่จะดึงมันออกมาจากตัวคุณโดยผู้ที่รู้จักมันอย่างชัดเจนและมั่นใจมากขึ้น เรามาที่นี่เพื่อเตือนคุณถึงสิ่งที่คุณเป็นอยู่แล้ว และเพื่อแสดงเส้นทางให้คุณไปถึงที่ที่คุณรู้จักและสัมผัสได้เสมอว่าคุณเป็นใครและเป็นอะไรจริง ๆ
บังเอิญว่ามีหลายเส้นทางในการค้นพบว่าคุณเป็นใครและเป็นอะไรจริง ๆ และมีหลายวิธีในการแสดงออก หลายวิธีในการดำรงชีวิตตามความจริงที่ว่าคุณคือพลังงานแห่งแหล่งกำเนิด คุณคือความรักที่ไม่มีเงื่อนไข นั่นคือสิ่งที่ทำให้เราทุกคนมีเอกลักษณ์ และความเป็นเอกลักษณ์ของเราต้องถูกโอบรับซึ่งกันและกัน มันเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตและการพัฒนาเพื่อตระหนักว่าทุกคนกำลังมีบทบาท และทุกคนเป็นอย่างที่ควรจะเป็นในตอนนี้
แน่นอนว่าทุกสิ่งและทุกคนก็จะเปลี่ยนไปเช่นกัน แต่ในฐานะปัจเจกบุคคล คุณไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดหรืออย่างไร และนั่นคือเหตุผลที่การยอมจำนนก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคนที่อยู่บนโลกในเวลานี้ ตอนนี้ คุณสามารถดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากใครก็ตามที่คุณกำลังมีปฏิสัมพันธ์ด้วยได้หรือไม่? แน่นอน และขอให้เป็นเป้าหมายของคุณ ขอให้เป็นเป้าหมายของคุณ แต่อย่ามองว่าตัวเองล้มเหลว แต่ให้ตระหนักว่าคุณทำดีที่สุดแล้วในฐานะแง่มุมเฉพาะของพลังงานแห่งแหล่งกำเนิดที่คุณเป็นและเป็นอยู่ในขณะนั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ปล่อยให้ตัวเองและคนอื่น ๆ เป็นอิสระ คุณต้องการสร้างแนวคิดเรื่องความวุ่นวายและแนวคิดเรื่องความล้มเหลว เพื่อที่คุณจะได้สัมผัสกับการลุกขึ้นจากความล้มเหลวที่วุ่นวาย และก้าวไปสู่ความสำเร็จอันแสนสุข ตอนนี้ คุณรู้แล้วว่าคุณรู้อะไรมาตลอด และถึงเวลาต้องฝึกฝนในโลกแห่งความเป็นจริง กล่าวอีกนัยหนึ่ง เมื่อคุณอยู่ท่ามกลางคนอื่น ๆ คุณก็มีโอกาสฝึกฝนความจริงเหล่านี้ และคุณจะได้รับการเตือนจากภายในตัวคุณที่เรียกว่าความรู้สึกของคุณ ความรู้สึกของคุณจะเป็นตัวนำทางคุณไปในทิศทางที่คุณควรจะไปเสมอ แต่คุณต้องฟัง และบางครั้งการฟังต้องใช้ความกล้าหาญ ความเชื่อมั่น และบางครั้งคุณก็ไม่ฟัง เพื่อที่คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกนั้น แล้วคุณก็จะเข้าใจถึงความสำคัญของการฟังมากขึ้น และคุณก็ทำ
และคุณอาจกล่าวได้ว่ามันคือการลองผิดลองถูก หรือคุณอาจกล่าวได้ว่ามันคือประสบการณ์ที่มีผลลัพธ์และความรู้สึกที่แตกต่างกันมากมาย และเมื่อคุณใส่ในแง่ที่มันดีสำหรับคุณ คุณก็จะรู้ได้จากความรู้สึกนั้นเช่นกันว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่คุณต้องทำในขณะนั้น จงให้คุณค่ากับความรู้สึกของคุณต่อไปและทำตาม และคุณรู้ว่าคุณจะอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องเสมอ และจำไว้ว่าความรู้สึกของคุณเมื่อคุณนึกถึงคนอื่นก็สำคัญเช่นกัน เมื่อคุณผ่อนปรนให้ใครสักคนและปล่อยให้พวกเขาเป็นอิสระ และมันดีกว่าการวิพากษ์วิจารณ์และประณามพวกเขา คุณก็รู้ว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่คุณต้องทำด้วยพลังงานความคิดของคุณในขณะนั้น
และนั่นคือทั้งหมดที่คุณทำได้ แต่จะมีอะไรอีกมากมายที่คุณทำได้ในอนาคต และคุณมีอะไรมากมายให้ตั้งตารอในอนาคต คำแนะนำของเราคืออย่ายอมแพ้ตัวเองหรือใครก็ตาม และใช้ชีวิตในแต่ละขณะเท่าที่จะทำได้ ทีละขณะ อย่างมีความสุขที่สุด
นั่นคือทั้งหมดสำหรับตอนนี้ เราคือ Thymus เราคือคณะอาจารย์ผู้ขึ้นสู่สวรรค์ และเราอยู่ท่ามกลางพวกคุณเสมอ”
โดยการสื่อสารผ่าน Daniel Scranton แปลและเรียบเรียง Jit Oneness
สรุปบทความ
บทความนี้ Thymus ซึ่งเป็นคณะอาจารย์ผู้ขึ้นสู่สวรรค์ ต้องการเตือนเราว่าทุกสิ่งที่เราต้องการรู้มีอยู่แล้วภายในตัวเรา และการเดินทางสู่การค้นพบตัวเองนั้นมีหลายเส้นทาง สิ่งสำคัญคือการยอมรับความแตกต่าง การยอมจำนนต่อสิ่งต่าง ๆ ที่เราควบคุมไม่ได้ และการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข โดยมีเป้าหมายในการดึงสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากผู้อื่น บทความเน้นย้ำถึงความสำคัญของการฟังเสียงความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งจะเป็นเครื่องนำทางในเส้นทางที่ถูกต้อง และการให้คุณค่ากับความรู้สึก รวมถึงการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเข้าใจ Thymus ส่งเสริมให้เราอย่ายอมแพ้ และใช้ชีวิตในแต่ละขณะอย่างมีความสุขที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
