ชีวิตเรียบง่ายงดงามได้ด้วยการปล่อยวาง ไม่ต้องควบคุมทุกอย่างหรือวางแผนทุกฝีก้าว โลกมักสอนให้เราวางแผนอนาคต เป้าหมาย หรือแม้กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน แต่เมื่อใดที่เราเลิกยึดติดกับการต้องรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป สิ่งมหัศจรรย์ก็จะเกิดขึ้น เราจะเปิดรับความเป็นไปได้ เปิดรับสิ่งใหม่ๆ และเปิดโอกาสให้ความสุขที่ไม่คาดฝันเข้ามา การใช้ชีวิตแบบไร้แผนที่ตายตัวเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง มันนำมาซึ่งอิสรภาพที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส เราจะเริ่มเห็นว่าชีวิต ด้วยสติปัญญาของมันเอง คลี่คลายไปในแบบที่เราคาดไม่ถึง ทุกช่วงเวลากลายเป็นผืนผ้าใบแห่งความเป็นไปได้ ปราศจากความคาดหวัง ปราศจากความผิดหวัง การเปิดรับชีวิตเช่นนี้คือที่ที่ความสุขที่แท้จริงอยู่
ความสุขจากการปล่อยวาง
ผมพบกับความสุขอย่างล้นเหลือเพราะไม่มีอะไรทำให้ผมผิดหวัง และแต่ละวันก็ดำเนินไปด้วยดี เมื่อเราปล่อยวางความคาดหวัง ความผิดหวังก็จะหายไป เราไม่ต้องแบกรับภาระของความหวังที่ไม่สมหวังหรือแผนการที่ล้มเหลว แต่ละวันจะกลายเป็นการผจญภัย เป็นบทใหม่ที่คลี่คลายไปตามธรรมชาติ ปราศจากการบังคับหรือต่อต้าน มีความสุขที่ได้ตื่นขึ้นมาโดยไม่มีแผนที่ตายตัวว่าวันนี้หรือชีวิตจะต้องเป็นอย่างไร เราเริ่มเชื่อมั่นในกระแสของชีวิต รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็คือสิ่งที่ควรจะเป็น ไม่ได้หมายความว่าเราจะเฉยเมยหรือไม่ใส่ใจ แต่มันหมายถึงเราสอดคล้องกับจังหวะของชีวิต และในความสอดคล้องนั้น เราจะพบกับความสุข จักรวาลจะดูแลรายละเอียดเองเมื่อเราหยุดหมกมุ่นกับมัน หัวใจของเราจะเบาสบายเมื่อเรามั่นใจว่าแต่ละวันจะนำมาซึ่งสิ่งที่ควรจะเป็น และนั่นคือที่ที่ความสงบสุขที่แท้จริงอยู่
มอบชีวิตไว้ในมือแห่งการดำรงอยู่
นี่คือการยอมจำนนขั้นสูงสุด การเชื่อมั่นในสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา ไม่ว่าจะเรียกว่าจักรวาล การดำรงอยู่ หรือสติปัญญาแห่งสวรรค์ แต่เมื่อเราปล่อยวางความต้องการที่จะควบคุม เราก็ยอมให้ชีวิตเป็นผู้นำ มีความสบายใจอย่างมากที่รู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องมีคำตอบทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องวางแผนทุกอย่าง แต่เราศรัทธาในพลังที่มองไม่เห็นของชีวิต เชื่อมั่นว่าพวกเขากำลังนำทางเราไปยังที่ที่เราควรจะอยู่ เราก้าวถอยหลังและปล่อยให้กระแสพัดพาเราไป รู้ว่าการดำรงอยู่นั้นมีปัญญามากกว่าที่เราจะเข้าใจ และในการยอมจำนนนั้น เราจะพบว่าตัวเองสอดคล้องกับชีวิตมากกว่าที่เราจะควบคุมได้ เราตระหนักว่าทุกสิ่งมีเวลา มีสถานที่ และมีจุดประสงค์ของมัน และสิ่งที่เราต้องทำคืออยู่กับปัจจุบัน เปิดใจ และเชื่อมั่นในการเดินทาง
จักรวาลดูแลเรา
การดำรงอยู่มีความกว้างใหญ่ไพศาลที่ทำให้เรารู้สึกต่ำต้อยและน่าเกรงขาม ลองคิดดู สติปัญญาเดียวกันกับที่เคลื่อนย้ายดวงดาวบนท้องฟ้า ที่ควบคุมการขึ้นลงของน้ำขึ้นน้ำลง ที่รักษาสมดุลของจักรวาล ก็กำลังนำทางชีวิตของคุณเช่นกัน การตระหนักเช่นนี้สามารถปลดปล่อยเราได้อย่างลึกซึ้ง เมื่อเราเข้าใจว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก เราสามารถปลดปล่อยความกลัวที่ว่าเราต้องควบคุมทุกสิ่ง จักรวาลได้จัดการตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบมาเป็นเวลาหลายพันล้านปีโดยที่เราไม่ต้องเข้าไปแทรกแซง มันทำให้ดวงดาวอยู่ในตำแหน่ง หมุนดาวเคราะห์ และหล่อเลี้ยงชีวิตในแบบที่เราแทบจะไม่เข้าใจ ดังนั้นทำไมไม่เชื่อมั่นในพลังเดียวกันนั้นเพื่อนำทางชีวิตของคุณล่ะ มีสติปัญญาที่เหนือกว่าความเข้าใจของเรา และเมื่อเราสอดคล้องกับมัน เราก็ก้าวเข้าสู่กระแสของการดำรงอยู่ ปราศจากความกังวลหรือการควบคุม
เราทุกคนต่างเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล
นี่คือเครื่องเตือนใจถึงความเรียบง่ายและความอ่อนน้อมถ่อมตนที่มาพร้อมกับการยอมจำนนต่อพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าของชีวิต คุณไม่จำเป็นต้องพิเศษหรือแตกต่างเพื่อให้ได้รับการดูแลจากจักรวาล คุณเป็นส่วนหนึ่งของแผนการอันยิ่งใหญ่ ไม่สำคัญมากหรือน้อยไปกว่าดวงดาวหรือดาวเคราะห์ ชีวิตของคุณ เช่นเดียวกับทุกสิ่งทุกอย่างในการดำรงอยู่ ถูกถักทอเป็นเนื้อเดียวกับแผนการของจักรวาล เมื่อคุณเชื่อมั่นในสิ่งนั้น คุณจะปล่อยวางความกดดันที่จะต้องเข้าใจทุกอย่าง คุณหยุดพยายามบังคับผลลัพธ์ และปล่อยให้ชีวิตคลี่คลายไปตามเวลาของมันเอง คุณกลายเป็นผู้ร่วมสร้างสรรค์กับการดำรงอยู่ เต้นรำไปกับจังหวะของชีวิต รู้ว่าคุณได้รับการสนับสนุน การดูแล และการชี้นำ มันเป็นการตระหนักรู้ที่ปลดปล่อยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจ มีความสุข และมีความสงบสุขอย่างลึกซึ้ง
เมื่อคุณปล่อยวางการควบคุม คุณจะเปิดรับสติปัญญาอันไร้ขอบเขตของจักรวาล เชื่อมั่นว่าชีวิตจะดูแลคุณ เช่นเดียวกับที่มันดูแลดวงดาว
โดย Conscious Souls แปลและเรียบเรียง Jit Oneness